การติดตั้งพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายต้องอาศัยความประณีตและประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพและสวยงาม โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:
งานเตรียมพื้น (Site Preparation):
ปรับระดับพื้นที่: เตรียมพื้นดินให้เรียบและแน่น โดยอาจมีการบดอัดดิน หรือลงหินคลุก
วางระบบระบายน้ำ: ติดตั้งท่อระบายน้ำหรือรางระบายน้ำตามความเหมาะสม
วางพลาสติกรองพื้น: เพื่อป้องกันความชื้นจากดินและช่วยกักเก็บน้ำในคอนกรีต
วางเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh) หรือเหล็กเส้น: เพื่อเสริมความแข็งแรงและป้องกันการแตกร้าวของคอนกรีต (สำหรับลานจอดรถควรใช้เหล็กเสริม)
งานเทคอนกรีต (Concrete Pouring):
เทคอนกรีตที่มีกำลังอัดตามมาตรฐาน (สำหรับลานจอดรถควรใช้คอนกรีตที่มีกำลังอัดสูงกว่าปกติ เช่น 280-320 KSC) ลงบนพื้นที่ที่เตรียมไว้
ปรับระดับและปาดหน้าคอนกรีตให้เรียบเนียน
โรยสีเพิ่มความแข็งแรง (Color Hardener Application):
เมื่อหน้าคอนกรีตเริ่มหมาด แต่ยังไม่แข็งตัว จะทำการโรยผงสีเพิ่มความแข็งแรง (Color Hardener) ซึ่งเป็นผงผสมซีเมนต์และเม็ดสี ลงบนผิวหน้าคอนกรีต
ขัดปาดให้ผงสีซึมเข้ากับเนื้อคอนกรีต เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและได้สีที่ต้องการ
โรยน้ำยาถอดแบบ (Release Agent Application):
หลังจากโรยสีแล้ว จะโรยผงน้ำยาถอดแบบ (Release Agent) ซึ่งเป็นผงที่มีคุณสมบัติป้องกันไม่ให้แม่พิมพ์ติดกับคอนกรีต และยังช่วยสร้างมิติของสีให้ดูเป็นธรรมชาติ
ปั๊มลาย/พิมพ์ลาย (Stamping):
ใช้แม่พิมพ์ที่มีลวดลายตามที่เลือก (เช่น ลายหินกาบ, ลายอิฐ, ลายไม้) วางลงบนผิวคอนกรีตที่ยังไม่แข็งตัว และใช้แรงกดหรือเครื่องมือกดทับ เพื่อให้เกิดลวดลายที่ชัดเจน
บ่มคอนกรีต (Curing):
ปล่อยให้คอนกรีตแห้งและเซ็ตตัวอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง โดยอาจมีการบ่มด้วยน้ำหรือน้ำยาบ่ม เพื่อให้คอนกรีตแข็งแรงเต็มที่
ล้างทำความสะอาด (Cleaning):
เมื่อคอนกรีตแข็งตัวเต็มที่แล้ว จะล้างทำความสะอาดผงน้ำยาถอดแบบส่วนเกินออก เพื่อเผยให้เห็นลวดลายและสีสันที่แท้จริง
ลงน้ำยาเคลือบผิว (Sealing):
ขั้นตอนสุดท้ายคือการลงน้ำยาเคลือบผิว (Sealer) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเงางาม ปกป้องสีและลวดลาย ให้พื้นผิวแข็งแรง ทนทานต่อการขูดขีด คราบสกปรก และรังสี UV